ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย A*STARs Institute for Infocomm Research (I²R), Institute of Mental Health และ Duke-NUS Medical School ในสิงคโปร์ โดยที่ Cogo เป็นแอปที่บริหารจัดการได้อย่างง่าย เป็นเกมที่สนุกและสามารถโต้ตอบได้เพื่อช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิดีขึ้น
การรักษาด้วย Neurofeedback โดยใช้ Brain-Computer Interface[1]
78% ของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมีพัฒนาการโดยรวมดีขึ้น[2]
หลักฐานที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร peer reviewed รวมถึงวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ Nature[3]
การพัฒนาที่มีนัยสำคัญทางสถิติ รวมถึงหลักฐานที่ได้จากการสแกนสมอง fMRI
การออกแบบและวิธีการที่ได้รับการจดสิทธิบัตร สำหรับกฎระเบียบได้รับการรับรองภายใต้ TÜV SÜD ISO13485
ใช้งานในกว่า 50 ประเทศ รองรับ 11 ภาษา[4]
ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ทำให้ติดเกม
[1] โปรแกรมการฝึกสมาธิโดยใช้ Brain-Computer Interface สำหรับการรักษาความผิดปกติของเด็กสมาธิสั้น (ADHD)
[2] โปรแกรมการฝึกสมาธิโดยใช้ Brain-Computer Interface ที่บ้านสำหรับโรคสมาธิสั้น (ADHD): การทดลองความเป็นไปได้
[3] การแทรกแซงโดยใช้ Brain-Computer Interface ทำให้โครงสร้างเครือข่ายการทำงานของสมองเป็นปกติในเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD)
[4] ภาษาที่รองรับ: อังกฤษ จีน (Simplified & Traditional) ไทย ตุรกี ญี่ปุ่น ภาษาอินโดนีเซีย โปแลนด์ เยอรมัน สเปน และโรมาเนีย
Cogo เป็นโปรแกรมการฝึกสมาธิที่ใช้เกมและไม่ใช้ยา การใช้เทคโนโลยี Neurofeedback เช่น วิธีการบําบัดแบบดิจิทัล (DTx) สามารถฝึกเด็กๆ ถึงวิธีการจดจ่อ การควบคุมต่อสิ่งเร้าที่ดีขึ้นและใช้ทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จริงได้
เด็กอายุ 6 ถึง 12 ปี ไม่ว่าความสามารถด้านความสนใจในปัจจุบันจะเป็นอย่างไร สามารถใช้ Cogo เพื่อพัฒนาสมาธิของตนเองได้
24 ครั้งใน 3 เดือน
2 ถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ครั้งละ 30-45 นาที
ปรับแต่งพื้นฐานการมีสมาธิสําหรับเด็กแต่ละคน
ระดับการโฟกัสของเด็กจะผลักดันให้ตัวการ์ตูนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือหยุด
การเล่นเกมช่วยปรับปรุงในด้านสมาธิต่อเนื่อง (Sustained Attention) ด้านการเลือกความสนใจ (Selective Attention) และการควบคุมการยับยั้ง (Inhibition Control)
การพัฒนาที่เห็นได้ชัดเจนในการจัดการงานประจำวัน อย่างเช่น การให้ความสนใจในชั้นเรียนหรือการตอบคําถามทางวิชาการ